Respect - เพลงแห่งการยืนหยัดและความรักอันแสนบริสุทธิ์

“Respect” ไม่ใช่แค่เพลง soul ที่โด่งดัง แต่เป็นบทกวีแห่งการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม อันทรงพลังและซาบซึ้งที่ยังคง reverberate ในหัวใจผู้คนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

เพลงนี้ถูกแต่งขึ้นโดย Otis Redding นักร้อง兼นักแต่งเพลง soul ที่มีชื่อเสียงในช่วงทศวรรษ 1960 Redding เป็นผู้ชายผิวดำจาก Macon, Georgia ซึ่งได้สร้างสรรค์ผลงานเพลงระดับมาสเตอร์พีซมากมาย ทั้ง “Try a Little Tenderness” , “These Arms of Mine” และ “Satisfaction”

แต่ “Respect” ของ Redding นั้นมีความพิเศษกว่าเพลงอื่นๆ เพราะเนื้อหาของมันไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความรักแบบโรแมนติกทั่วไป แต่เป็นการร้องขอความเคารพและความเท่าเทียมจากสังคม

Redding ร้องเพลงนี้ด้วยน้ำเสียง husky และ soulful ซึ่งทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสถึงความจริงใจและความเข้มแข็งของเขา เพลงนี้ถูกบันทึกขึ้นในปี 1965 และกลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตติดชาร์ตอันดับต้นๆ

อย่างไรก็ตาม “Respect” ได้รับการตีความใหม่โดย Aretha Franklin ศิลปิน soul อีกคนหนึ่งในปี 1967 และมันก็กลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำให้ชื่อของเธอโด่งดังไปทั่วโลก

Franklin ร้องเพลงนี้ด้วยพลังและความมั่นใจที่ไร้เทียมทาน เธอได้เพิ่ม beat และ groove ที่หนักแน่นขึ้น ทำให้ “Respect” กลายเป็นเพลงฮิตที่เหมาะสำหรับการเต้นรำ

เพลงเวอร์ชันของ Franklin นั้นได้รับรางวัล Grammy ในปี 1968 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองและความเท่าเทียมระหว่างเพศ นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์มากมาย

Franklin กล่าวว่า “Respect” เป็นเพลงที่ “ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงอำนาจและความแข็งแกร่งของตัวเอง”

เธอได้ร้องเพลงนี้ในการแสดงสดมากมาย ซึ่งมักจะได้รับเสียงปรบมืออย่าง thunderous

เนื้อหาของ “Respect”

เนื้อหาของ “Respect” โดเด่นด้วยการใช้สำนวนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง Redding ร้องขอความเคารพจากคนรักของเขา โดยเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ควรเป็นไปบนพื้นฐานของความเท่าเทียม

เนื้อเพลง “What you want, baby I got it” และ “R-E-S-P-E-C-T, find out what it means to me” สะท้อนถึงความต้องการของ Redding ที่ต้องการให้คนรักของเขาเห็นคุณค่าและเคารพในตัวเขา

Franklin ได้นำเอาเนื้อหาของ Redding มาตีความใหม่โดยเน้นย้ำถึงความต้องการความเท่าเทียมระหว่างเพศ

การร้องว่า “You better give it, respect me” เป็นคำร้องที่ทรงพลังและชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Franklin ที่ต้องการให้ผู้ชายในยุคสมัยนั้นให้ความเคารพแก่ผู้หญิง

อิทธิพลของ “Respect”

เพลง “Respect” ได้สร้างอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรี soul มันได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับเพลงที่ต้องการส่งเสริมข้อความเกี่ยวกับความเท่าเทียมและความเคารพ

นอกจากนั้น “Respect” ยังได้รับการนำไป cover โดยศิลปินหลากหลายคน เช่น

ศิลปิน	ปี
The Rolling Stones	1968
Ike & Tina Turner	1971
Wilson Pickett	1969
Etta James	2000

การ cover เพลงนี้โดยศิลปินที่มีความหลากหลายในด้านแนวเพลงและสไตล์ แสดงให้เห็นถึงพลังและความสามารถในการปรับตัวของ “Respect”

“Respect” ไม่เพียงแต่เป็นเพลง soul ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นบทเพลงที่สะท้อนถึงการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและความเคารพ ซึ่งข้อความสำคัญนี้ยังคงมีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับสังคมในปัจจุบัน.